Shopping Cart

โรคขี้เต็มท้อง

วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ โรคที่ฟังดูแล้วรู้สึกแปลกๆ ใกล้ตัวเรา แต่คนเพิ่งจะมารู้จักกัน นั่นคือ “โรคขี้เต็มท้อง” อันที่จริงมันก็คือภัยเงียบที่มันร้ายแรงกว่าที่คิด

หลังจากที่มีข่าวดัง จาก “คุณตุ๊กตา” จมาพร แสงทอง จากเวที The Voice ซึ่งเธอออกมาบอกว่า เธอเป็น “โรคขี้เต็มท้อง” พร้อมเล่าว่า โรคนี้่ไม่ใช่จะเกิดกับคนท้องผูกได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ขับปกติก็อาจจะเป็นเพียง เพียงแค่คุณอั้นขรี้ หรือมีกับขับถ่ายที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เราจะสังเกตอาการได้อย่างไรว่าเราจะเป็นหรือไม่

  • ท้องผูก
  • เวียนหัว
  • ปวดท้องบีบๆ
  • หายใจไม่อิ่มท้อง หรือหายใจไม่ทั่วท้อง
  • มีลมในท้องเยอะผิดปกติ ตดเปรี้ยว เรอเปรี้ยว
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง
  • อุจจาระเป็นก้อนเล็ก แข็ง บางครั้งมีมูกเลือดปนออกมาด้วย
  • เมื่ออุจจาระแล้วรู้สึกว่ายังไม่สุดนั่งนานกว่าปกติ ออกไม่หมดยังคงมีเหลืออยู่ในท้อง

พฤติกรรมที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรค

อุจจาระไม่เป็นเวลา หากเรากลั้นอุจจาระบ่อยๆ หรือเวลาที่อยากถ่ายจริง ถูกเลื่อนออกไป ทำให้ไม่เป็นเวลา ฝืนไม่ถ่าย ร่างกายเราจะเข้าใจว่าเราไม่อยากถ่ายจนไม่สามารถขับถ่ายอุจจาระออกมาได้ เพราะเลยเวลาที่ลำไส้ใหญ่บีบตัวเพื่อเตรียมขับถ่ายไปแล้วนั่นเอง

ท้องผูก การกลั้นอุจจาระบ่อยๆ ไม่ให้ร่างกายขับถ่าย หากกลั้นนาน จะทำให้อุจจาระร่นกลับเข้าไปค้างในลำไส้ใหญ่ จนทำการขับถ่ายครั้งต่อไปลำบาก เพราะของเสียมีจำนวนมากที่ต้องการระบายออก และถูกอัดแน่นจนแข็ง จึงเป็นสาเหตุของท้องผูก

ริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระบบขับถ่ายแปรปรวนทำงานไม่ปกติ อุจจาระเริ่มเป็นก้อนแข็ง และบาดทวารหนัก หรือทำให้ด้านในของทวารหนักปลิ้นออกมาข้างนอก ทำให้ขับถ่ายมีเลือดออก อาจเป็นสัญญาณของโรคริดสีดวงทวาร และยังมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ในอนาคตได้อีกด้วย

เราควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ห่างไกลจากโรคนี้

  • ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา และเวลาที่ดีที่สุด 05.00 – 07.00 น. หากเวลานี้ไม่สะดวก ก็ควรหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สามารถขับถ่ายได้ตรงตามเวลาสม่ำเสมอทุกวัน อย่าเร่งรีบ
  • ดื่มน้ำ 1 แก้วใหญ่ หลังตื่นนอน จะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำอุณภูมิห้องก็ได้ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนตัวได้ดี ไล่ของเสียในลำไส้ลงมาทำให้ขับถ่ายได้สะดวก
  • พยายามอย่ากลั้นอุจจาระ ถ้ามีอาการปวดควรหาห้องน้ำเข้าทันที เพราะถ้าหากกลั้นระบบขับถ่ายจะแปรปรวนเพราะการขับถ่ายที่ผิดเวลา
  • ขณะกำลังขับถ่าย ถ้ายังไม่ปวดอย่าเพิ่งเบ่งอุจจาระ เพราะร่างกายจะมีสมดุลการหด และคลายตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ ควรรอจังหวะที่ปวด หากทำบ่อยจะทำให้เกิดผลเสีย อาจทำให้ลำไส้โป่งพองเกิดริดสีดวงทวารตามมาได้
  • นวดลำไส้ ถ้าในเด็กนวดวนรอบสะดือ ในผู้ใหญ่ให้นวดตรงท้องด้านล่างซ้ายเลยสะดือไป นวดเบาๆ โดยค่อยๆ นวดดันลงไปข้างแล้วทิ้งไว้สักพักจะรู้สึกปวดถ่ายขึ้นมา
  • นั่งถ่ายอย่างถูกวิธี และการนั่งถ่ายที่ดีที่สุดกระตุ้นกับขับถ่ายได้ดีคือ นั่งยองๆ เพราะจะมีแรงกดจากหน้าขาช่วยให้ขับถ่ายได้คล่อง แต่ปัจจุบันนิยมเป็นแบบชักโครก ซึ่งทำให้มีแรงเบ่งน้อยกว่า ดังนั้นควรมีท่านั่งที่ถูกต้องเพื่อช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น คือ โค้งตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ขณะขับถ่ายอาจใช้มือกดท้องด้านซ้ายล่างจะช่วยให้มีแรงกระตุ้นลำไส้เคลื่อนตัวได้ดียิ่งขึ้น

แต่ในปัจจุบันด้วยสภาวะการที่เร่งรีบ และการทำงานกิจกรรมแต่ละบุคคลก็อาจจะไม่เอื้ออำนวยให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นทางเลือกที่จะทำให้เรามีสุขภาพของลำไส้ที่ดี โดยที่ไม่ยุ่งยากกับชีวิตมากจนเกินไป คือ การดีท็อกซ์ลำไส้โดยแพทย์ หรือสิ่งที่ง่ายสุดคือหาอาหารเสริมที่ช่วยให้ระบบขับถ่าย ได้ขับถ่ายของเสียได้อย่างหมดจด อย่างไฟเบอร์หรือดีท็อกซ์นั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

หน้าแรก
สินค้าทั้งหมด
โทรสั่งสินค้า
แอดไลน์
แจ้งชำระเงิน